l รอบรู้ธุรกิจเห็ดHed

ฺBanhed211/บ้านเห็ด ธุรกิจฟาร์มเพาะเห็ด (Start up-Business)

       ด้วยความหลากหลายของชนิดเห็ดและมีคุณค่าทางโภชนาการสูง ส่งผลให้ความต้องการของตลาดยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นตลาดในประเทศที่มีมูลค่ากว่า 7,000 ล้านบาท หรือแม้แต่ตลาดส่งออกที่แม้ว่าจะมีเพียงร้อยละ 5 ของการผลิตทั้งหมด แต่มูลค่าการส่งออกเห็ดสดและเห็ดแปรรูปของไทยยังคงมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นนั้น ส่งผลให้การทำธุรกิจฟาร์มเพาะเห็ดนับว่าเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่น่าสนใจ ทำเป็นอาชีพหลักหรืออาชีพเสริม นอกจากนี้ การวิจัยและพัฒนาประโยชน์ของเห็ด อย่างต่อเนื่องเพื่อต่อยอดไปสู่ธุรกิจอื่นๆที่เกี่ยวข้อง อาทิ ยารักษาโรค เครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ยังทำให้ความต้องการเห็ดมีโอกาสที่จะขยายตลาดได้กว้างขวางขึ้น
     แต่ทั้งนี้ มีผู้ประกอบการหลายรายเช่นกันที่ต้องล้มเลิกกิจการไป อันเนื่องมาจากขาดความรู้ความเข้าใจในการบริหารจัดการ ดังนั้น แม้ว่าลักษณะ การเข้าสู่ตลาดจะค่อนข้างง่ายและมีความน่าสนใจอยู่ไม่น้อย แต่ผู้ประกอบการที่สนใจจะลงทุนทำธุรกิจฟาร์มเพาะเห็ดจะต้องมีการศึกษาถึงรายละเอียดและแนวทางการดำเนินงานค่อนข้างละเอียด โดยสิ่งแรกที่จะต้องพิจารณา ก่อนที่จะเริ่มต้นทำธุรกิจ คือ ความต้องการของตลาดและแหล่งรับซื้อเห็ด เพื่อที่จะเป็นตัวรองรับผลผลิตและกำหนดลักษณะของเห็ดที่จะทำการผลิต หลังจากนั้นก็ทำการศึกษาถึงกระบวนการผลิตตั้งแต่การเลือกระบบการผลิตเห็ดไปจนถึงขั้นตอนในการดูแลรักษา ซึ่งกระบวนการต่างๆเหล่านี้ ผู้ประกอบจะต้องมีการดูแลเอาใจใส่ค่อนข้างมาก ในขณะที่การศึกษาข้อมูลและรายละเอียดต่างๆนั้น ผู้ประกอบการสามารถหาเพิ่มเติมได้ตามเว็บไซต์ หรือสอบถามข้อมูลได้จากหน่วยงานภาครัฐหรือเอกชนที่เกี่ยวข้อง เช่น สมาคมนักวิจัยและเพาะเห็ดแห่งประเทศไทย ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพจังหวัดต่างๆ หรือติดต่อที่ศูนย์เรียนรู้บ้านเห็ด สาขาบางบอน เป็นต้น ทั้งนี้ เพื่อให้การทำธุรกิจสามารถดำเนินไปในทิศทางที่ถูกต้องตั้งแต่ระยะเริ่มแรก 

 ////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////

  “เห็ดหลินจือ” เชื่อว่าทุกคนคงรู้จักกันบ้างอยู่แล้ว โดยในสมัยโบราณมีการนำเห็ดหลินจือมาใช้ประโยชน์นานกว่า 2,000 ปี เนื่องจากถือว่าเป็นสมุนไพรชั้นสูงที่หายากต้องบุกป่าฝ่าดงเข้าไปเสาะแสวงหา ให้ได้มาซึ่งสรรพคุณทางยาที่สุดวิเศษ ในทางพฤกษศาสตร์พบว่า เห็ดหลินจือ แบ่งประเภทตามลักษณะของสีและรูปร่างได้ 6 ชนิดด้วยกัน คือ หลินจือแดง ดำ เหลือง ขาว เขียว และม่วง
      
        ทว่า จากการศึกษาวิจัยพบเห็ดหลินจือแดงมีสารที่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อร่างกายมาก ที่สุด โดยถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มที่มีคุณสมบัติเทียบเท่ากับ “โสม” ที่เป็นยาอายุวัฒนะ ยืดอายุให้ยืนยาว

      
       สำหรับคุณสมบัติอันโดดเด่นของหลินจือแดงก็คือ ช่วยสร้างภูมิต้านทานโรค กำจัดสารพิษในร่างกาย กระตุ้นเซลล์ในร่างกายให้ทำงานเป็นปกติ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ชะลอความชรา บำรุงร่างกายเมื่ออ่อนเพลียหรือขณะพักฟื้นให้ร่างกายแข็งแรง อีกทั้งช่วยควบคุมระบบไหลเวียนโลหิตให้ไหลเวียนสะดวกมากขึ้น
 เห็ดหลินจือแดง สามารถฟื้นฟูอาการป่วยได้หลายโรค ซึ่งในเชิงเภสัชวิทยา เห็ดหลินจือแดงออกฤทธิ์ต่อ 5 ระบบ คือ
      
        1.ระบบภูมิต้านทาน มีการศึกษาพบว่าในเห็ดหลินจือแดงมีสารโพลีแซคคาไรด์ ที่ช่วยยืดเวลาเสื่อมของเซลล์ นอกจากนี้มีผลในการเพิ่มประสิทธิภาพเม็ดเลือดขาวในการจัดการกับไวรัส แบคทีเรีย เชื้อรา และเซลล์ก่อมะเร็ง ดังนั้นจึงช่วยให้ร่างกายสามารถจัดการกับอาการผิดปกติต่อระบบภูมิคุ้มกัน มีผลดีต่อผู้เป็นภูมิแพ้ เบาหวานที่แผลหายยาก เป็นหวัดเจ็บคอบ่อย ช่วยลดอัตราการเกิดมะเร็ง
      
        2.ระบบหลอดเลือด เห็ดหลินจือแดง มีผลต่อช่วยขยายหลอดเลือด ลดการทำลายของสารอนุมูลอิสระที่ทำให้ผนังหลอดเลือดแข็งตัว มีผลช่วยลดการเกาะตัวของไขมัน คอเลสเตอรอล หรือเกล็ดเลือดในหลอดเลือด ส่งผลให้ช่วยชะลอความแก่ไม่เพียงแต่ผิวพรรณเต่งตึงเท่านั้น แต่ชะลอการเสื่อมสภาพของอวัยวะภายใน เช่น สมอง หัวใจ ตับ ไต เป็นต้น โดยเฉพาะสามารถลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจได้อย่างมีประสิทธิภาพเพราะ ช่วยลดปัจจัยเสี่ยงหลายอย่างจากสารสำคัญที่มีอยู่ในเห็ดหลินจือแดง เช่น Sterols, Ganoderic Acid ที่มีอยู่เฉพาะในเห็ดหลินจือแดงเท่านั้น

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น